Blog
ความใจดีที่วัดด้วยกำไรในนักเก็ตไก่
มีคำกล่าวว่า ‘เรากินอะไร เราก็เป็นอย่างนั้น’ แล้วถ้าเรากินนักเก็ตไก่ เราจะเป็นอะไร ไก่? ก้อนแป้ง? หรือน้ำมันทอด? ครัวเจ๋งจะพาไปหาคำตอบแบบฮาๆ กับเรื่องราวของนักเก็ตไก่ของกินเล่นยอดฮิตที่ใครก็เลิฟ พบกับความจริงที่อาจทำให้ต้องมองนักเก็ตไก่ในมุมมองใหม่… หรืออาจจะเหมือนเดิมก็ได้ เรื่องของเรื่องมันเริ่มจาก ไม่ใช่ลูกเจี๊ยบเลิกเชื่อคลิปหลอกเด็กในเน็ตได้แล้ว ที่เอาภาพลูกไก่ในโรงงานฟักไข่มาตัดต่อกับโรงงานทำนักเก็ตมันเป็นมุกตลก (แต่อาจไม่ตลกสำหรับลูกเจี๊ยบ) นักเก็ตไก่ไม่ได้ทำมาจากลูกเจี๊ยบบดแล้วทอด แต่ที่จริงแล้วนักเก็ตไก่ถือกำเนิดขึ้นในอเมริกา ปี ค.ศ. 1963 โดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อ โรเบิร์ต เบกเกอร์ เป็นภารกิจการกอบกู้ไก่ ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2506 ที่ในช่วงนั้นประเทศไทยอยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้สนับสนุนให้มีการขายก๋วยเตี๋ยวอย่างแพร่หลาย เพื่อให้คนไทยมีอาหารราคาถูก และมีประโยชน์แต่ไม่ได้มีการระบุเจาะจงว่าเป็นผัดไทซึ่งเเป็นเมนูที่คิดขึ้นโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลอเมริกามีไอเดียส่งเสริมให้เลี้ยงไก่กันใหญ่โต เพราะว่าไม่อยากให้คนอดอยาก แต่พอสงครามจบปริมาณเนื้อไก่เยอะเกินความต้องการ แถมคนก็ยังติดใจเนื้อแดงมากกว่าไก่ ทำให้การกินไก่กลายเป็นไก่ตกกระป๋องราคาถูกจนไม่มีใครสนใจ ทีนี้นายเบกเกอร์ของเราก็เลยอยากลองคิดทำไก่ให้มันกินง่ายๆ จึงคิดค้นกรรมวิธีไก่ทอดไร้กระดูก ไร้หนัง ขนาดพอดีคำ ให้กินง่าย เคี้ยวเพลิน แถมยังใจดีแจกสูตรให้บริษัทต่างๆ ฟรีอีกด้วยแถมไม่จดสิทธิบัตร โดยคุณเบเกอร์ไม่ได้มองว่าไก่เป็นสัตว์ที่น่าสงสาร แต่เขามองเห็นโอกาสในการแปรรูปไก่ให้กลายเป็นอาหารที่สะดวกมากขึ้น เขาไม่ได้กอบกู้ไก่ในแบบที่เราเข้าใจกัน แต่เป็นการกอบกู้อุตสาหกรรมไก่ต่างหาก ด้วยการคิดค้นวิธีนำเนื้อไก่ส่วนต่างๆ ที่อาจจะไม่ได้รับความนิยม เช่น เนื้อส่วนอกที่เหลือจากการขาย หรือเศษเนื้อต่างๆ มาบดรวมกัน ปรุงรส แล้วขึ้นรูปเป็นชิ้นพอดีคำ ชุบแป้งทอด แล้วนำไปแช่แข็งเพื่อให้ง่ายต่อการขนส่ง การจัดเก็บ จบลงที่การลงกระทะทอดของลูกค้า การคิดค้นนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อความอร่อยเป็นหลัก แต่เน้นไปที่ความสะดวก ราคาถูกผสมกับรสชาติที่อร่อย อย่างเรารู้จักและคุ้นเคยกัน ส่วนใหญ่มาจากเครื่องปรุงรส สารปรุงแต่ง ซอสต่างๆ ที่เติมเข้าไปเองต่างหาก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ไก่กลับมาปังอีกครั้ง ขายดิบขายดี ไม่ตกกระป๋องอีกต่อไป เดิมทีนายเบกเกอร์เขาตั้งชื่อเมนูนี้ว่า ไก่กรอบ (Chicken Crispy) แต่พอร้านแมคโดนัลด์เอาไปขาย ดันเปลี่ยนชื่อเป็นแมคนักเก็ตไก่ (Chicken McNugget) จนทำให้คนติดปากเรียกกันว่า นักเก็ตไก่มาจนถึงทุกวันนี้
ก่อนที่จะกัดนักเก็ตไก่ครั้งต่อไป ลองนึกถึงเบื้องหลังดูสักนิด นึกถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ กระบวนการแปรรูปที่ซับซ้อน และผลกำไรที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้อยู่เบื้องหลัง เรื่องของนักเก็ตไก่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย หรือไม่อร่อยแต่สะท้อนให้เห็นถึงระบบอาหารที่เราบริโภคกันในปัจจุบัน มามองให้ลึกไปกว่าแค่รสชาติกับเบื้องหลังที่อาจมีเรื่องราวน่าสนใจได้มากกว่าที่เราคิด